บทความ ARTICLES

ลิปสติกสีโปรดหัก ทำไงดี

ลิปสติกสีโปรดหัก !!!!
ไม่ต้องตกใจ แก้ไขได้ๆๆๆๆ
วันนี้ฝนมีเทคนิคการซ่อมมาบอกลองทำกันดูนะคะ
1. เตรียมลิปสติกและไฟแช็คหรือไม้ขีดไฟ
2. ใช้ไฟลนให้เนื้อลิปสติกบนแท่งละลาย (ระวังไฟไปโดนส่วนที่จับนะคะ)
3. รอให้ลิปสติกเย็นตัวลงเล็กน้อย
4. จับลิปสติกส่วนที่หักมาต่อเข้ากับแท่งแล้วใช้ไฟลนรอบๆ รอยต่อ
5. นำไปแช่ตู้เย็นประมาณครึ่งชั่วโมง
เพียงเท่านี้เราก็ได้ลิปแท่งเก่ามาใช้ใหม่แล้วจ้า หรือใครอาจหลอมใส่ตลับเล็กๆก้อเก๋ดีนะคะ

อ่านต่อ »
วิธีการเก็บรักษาอุปกรณ์เครื่องสำอาง

วิธีการเก็บรักษาอุปกรณ์เครื่องสำอางที่สามารถทำได้ง่ายๆ ลองทำกันดูนะคะ เพื่อผิวหน้าสวย ไร้สิวจ้าาาา

- แปรงหรือฟองน้ำแต่งหน้า เราควรทำความสะอาดอย่างน้อยเดือนละครั้ง แต่ถ้าเห็นว่าขนแปรงไม่ค่อยนุ่มหรือเริ่มติดกันเป็นก้อนก็สามารถทำความสะอาดได้ทันที โดยใช้น้ำยาทำความสะอาดแปรงแต่งหน้าหรือสบู่อ่อนๆ เช่น สบู่เด็ก ควรคว่ำขนแปรงลง เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำเข้าไปทำลายกาวที่ยึดเกาะแปรงกับด้ามให้หลุดออกจากกัน ถูแปรงหรือฟองน้ำกับสบู่ไปเรื่อยๆ จนกว่าคราบเครื่องสำอางจะหลุดออกจนหมด จากนั้นจึงล้างให้สะอาดอีกครั้งด้วยน้ำเปล่า
หลังล้างทำความสะอาดเรียบร้อย ตากอุปกรณ์แต่งหน้าคว่ำขนแปรงลง และควรแน่ใจว่าแห้งสนิทก่อนเก็บรักษา หรือนำไปใช้ในครั้งต่อไป เพื่อป้องกันการเกิดเชื้อราหรือการสะสมของเชื้อแบคทีเรีย
อุปกรณ์แต่งหน้าต่างๆ ควรอยู่ในที่อากาศถ่ายเท หรือในกล่องที่สามารถระบายอากาศได้ เพราะหากเราเก็บไว้ในที่อับชื้นอาจทำให้ขึ้นราได้ หรือในสถานที่มีขี้ฝุ่นเยอะก็อาจทำให้เชื้อโรคและแบคทีเรียเกิดการสะสมรวดเร็วขึ้น

- ที่ดัดขนตาควรทำความสะอาดก่อนใช้อยู่เสมอ เพราะอาจมีฝุ่นละอองหรือสิ่งสกปรกจากคราบมาสคาร่าติดอยู่ ซึ่งมีวิธีง่ายๆ คือ นำสำลีชุบน้ำยาเช็ดรอบดวงตาหรืออายรีมูฟเวอร์ (Eye remover) มาเช็ดบริเวณส่วนที่เลอะหรือบนแผ่นยางรองหนีบ จากนั้นเช็ดออกให้สะอาดด้วยกระดาษทิชชู่

หากพบว่าอุปกรณ์เสื่อมสภาพก็ควรเปลี่ยนใหม่ เช่น ขนแปรงแต่งหน้าหลุดหักงอ หรือยางรองที่ดัดขนตาฉีกขาด

อ่านต่อ »
ข้อควรรู้เกี่ยวกับกันแดด SPF ,PA+++

ประเทศไทยอยู่ในโซนเขตร้อนมีแสงแดดจัดเกือบตลอดทั้งปีจึงยากที่จะหลบเลี่ยงแสงแดดได้ หากได้รับแสงแดดมากเกินไปหรือได้รับในช่วงเวลาที่แดดจัด (10.00-16.00 น.) รังสีอัลตราไวโอเลต (ยูวี) จะไปทำให้ผิวหนังคล้ำหรือเหี่ยวย่นก่อนวัย อาจทำให้เป็นโรคมะเร็งผิวหนัง ผลิตภัณฑ์กันแดดจึงเป็นตัวช่วยสำคัญในการป้องกันภัยร้ายที่อาจเกิดจากแสงแดด สามารถลดปริมาณรังสียูวีที่จะมาถึงผิว
ซึ่งสารป้องกันแดดแบ่งเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่
-กลุ่มสารที่มีคุณสมบัติสะท้อนแสง เช่น titaium dioxide , zinc oxide สารกลุ่มนี้จะเคลือบบนผิวไม่ดูดซึมเข้าผิวหนัง
-กลุ่มสารที่มีคุณสมบัติดูดซับรังสียูวี เช่น bezophenone,octinoxate ทำให้เกิดอันตรายต่อผิวหนังน้อยลง

ครีมกันแดดที่ดีควร Broad Spectrum คือสามารถช่วยป้องกันทั้งรังสี UVA ทำให้ผิวแก่เกิดริ้วรอย(aging) และรังสี UVB ทำให้ผิวไหม้และคล้ำ (burn)
*ค่า SPF (Sun Protection Factor) จะเป็นตัวบ่งบอกให้ทราบว่าเมื่อใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดนั้นแล้วจะช่วยป้องกันรังสียูวีบีจากแสงแดดได้นานแค่ไหนผิวจึงจะไหม้ โดยขึ้นอยู่กับความเข้มของแสงแดด โดยทั่วไปควรใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30ขึ้นไป ซึ่งผลิตภัณฑ์กันแดดที่มีค่า SPF สูง จะมีความเข้มข้นของสารป้องกันแสงแดดที่สูงตามไปด้วย อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองผิวได้มากกว่าครีมกันแดดที่มีค่า SPF ต่ำ จึงต้องระมัดระวังในการใช้เพิ่มมากขึ้นเช่นกัน สำหรับค่า SPF สูงกว่า 50 (ในฉลากแสดงเป็น SPF 50+) ก็ไม่ได้แตกต่างไปจาก SPF 30 มากนัก แต่ราคาจะแตกต่างกันมาก จึงควรพิจารณาเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสม
ทาง laniakea จึงเลือกใช้ SPF 40 เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดในการกันแดดและลดโอกาสการระคายเคืองจาก SPFที่สูงเกินไป
*ค่า PA (Protection grade of UVA) หรือ PFA (Protection factor for UV-A) นั้น เป็นการช่วยป้องกันรังสียูวีเอที่เป็นสาเหตุให้เกิดริ้วรอยเหี่ยวย่นและโรคมะเร็งผิวหนัง โดยสามารถดูค่าบนฉลากที่จะแสดงระดับเป็น PA+ หรือ PA++ หรือ PA+++ ขึ้นกับระดับความสามารถจากน้อยไปหามากในการป้องกันรังสียูวีเอ
ทั้งนี้ วิธีการป้องกันอันตรายจากแสงแดดที่ดีที่สุด ควรอยู่ในที่ร่ม สวมเสื้อผ้าให้มิดชิดสวมหมวกปีกกว้าง รวมทั้งสวมแว่นกันแดดด้วย เพราะรังสียูวีนั้นนอกจากจะเป็นสาเหตุของโรคมะเร็งผิวหนังแล้วยังเป็นสาเหตุของโรคต้อกระจกได้ด้วย ทาก่อนออกไปกลางแจ้งอย่างน้อย 15-30 นาที ยกเว้นรอบดวงตาและริมฝีปาก

อ่านต่อ »
ฉีดน้ำหอมให้หอมและติดทนนานตลอดวัน

สวยแล้วต้องหอมด้วย ช่วยเพิ่มเสน่ห์ เย้ายวนใจ 5555
เคยมั๊ย? ฉีดน้ำหอมแปปเดียวกลิ่นไปไหนหมด ?

วันนี้ฝนมีเคล็ดลับการฉีดน้ำหอมให้หอมและติดทนนานตลอดวัน
1. ฉีดน้ำหอมหลังจากอาบน้ำทันที ฉีดก่อนแต่งตัว ผิวของคุณจะชุ่มชื้นทำให้กลิ่นติดทนนาน และน้ำหอมจะไม่โดนเสื้อผ้าหรือเครื่องประดับให้เสียหายอีกด้วย
2. จุดสำคัญที่ควรฉีดน้ำหอม คือบริเวณจุดชีพจรในร่างกาย เพราะน้ำหอมจะติดและส่งกลิ่นได้ดีที่สุดในจุดที่มีความร้อนที่มีการไหลเวียนโลหิต ยกตัวอย่างเช่น บริเวณข้อมือ ข้อพับ ร่องอก ข้อพับขา หรือแม้แต่บริเวณตาตุ่ม น้ำหอมจะส่งกลิ่นขึ้นมาจากด้านล่าง ทำให้กลิ่นตัวเราหอมตลอดเวลา
3. ไม่ควรถูข้อมือสองข้างเข้าด้วยกันหลังการฉีดน้ำหอม เพราะจะทำให้น้ำหอมของเรากลิ่นหอมอ่อนลง และไม่ติดทนด้วยนะ
4. ฉีดน้ำหอมด้านหน้า แล้วเดินผ่านละอองน้ำหอม จะทำให้น้ำหอมกลิ่นไม่ฉุนจนเกินไป และติดทั่วทั้งร่างกายและเสื้อผ้าของเราอีกด้วย
5. หากต้องการกลิ่นน้ำหอมแบบติดทนนาน มีกลิ่นอ่อนบางๆ แนะนำให้ฉีดน้ำหอมหลังจากทาโลชั่น จะทำให้ได้กลิ่นหอมที่ติดทนนานและเฉพาะตัวมากๆ
6. หากต้องการฉีดน้ำหอมที่ผม อย่าฉีดน้ำหอมลงบนเส้นผมโดยตรง ควรฉีดลงบนแปรงก่อนแล้วค่อยหวี วิธีนี้จะช่วยให้เส้นผมไม่ต้องสัมผัสกับแอลกอฮอล์จากน้ำหอม แต่จะช่วยให้กลายเป็นนางผมหอมไปทั้งวัน ฉีดน้ำหอมลงบนแปรงแล้วแปรงผมให้ทั่ว ดีกว่านะ หรืออีกวิธีคือใช้น้ำหอมสำหรับเส้นผมฉีดระหว่างการสระดีไหม
7. ฉีดน้ำหอมลงบนกระดาษบาง ๆ แล้วเอามารองเสื้อผ้าในตู้เสื้อผ้า วิธีนี้จะช่วยให้กลิ่นเสื้อผ้าของคุณมีกลิ่นน้ำหอมกลิ่นโปรดติดอยู่นาน ๆ สำหรับวันที่อาจไม่ต้องฉีดน้ำหอมบนร่างกายด้วยซ้ำ
ลองทำกันดูนะจ๊ะ จะได้ ห้อมหอม ทั้งวันจ้าาาา

อ่านต่อ »
CARICA PAPAYA FRUIT EXTRACT

CARICA PAPAYA FRUIT EXTRACT เป็นสารสกัดจากธรรมชาติจากมะละกอ มีส่วนประกอบของ เอนไซม์ปาเปน ที่มีคุณสมบัติในการผลัดเซลล์ผิวหนังที่เสื่อมสภาพ เผยผิวเปล่งปลั่งกระจ่างใสแลดูขาว อย่างเป็นธรรมชาติ พร้อมทั้ง มีคุณสมบัติanti-oxidant ลด Lipid peroxidation ที่เป็นสาเหตุของการเกิดริ้วรอบก่อนวัย ปรับสภาพผิวให้นุ่มนวลน่าสัมผัส ไม่หยาบกร้าน ลดการอุดตันในรูขุมขน ลดปัญหาของสิวเสี้ยนสิวอุดตัน เผยผิวเปล่งปลั่งกระจ่างใสแลดูขาวอย่างเป็นธรรมชาติ

อ่านต่อ »
Lipobelle Glacier

Lipobelle Glacier เป็นน้ำแร่บริสุทธิ์จากธารน้ำแข็ง swiss glacier water ในสวิตเซอร์แลนด์ ที่บรรจุในรูป Liposome
เพื่อเสริมประสิทธิภาพในการนำพาน้ำแร่ให้ซึมเข้าสู่ผิวได้อย่างล้ำลึก ช่วยชดเชยและเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวได้อย่างยาวนานตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนั้นยังสามารถปกป้องเซลล์ผิวจากสภาพอากาศร้อนได้อีกด้วย

อ่านต่อ »
ของกินกรุบกริบที่กินแล้วไม่อ้วน ไร้พุง

ของกินกรุบกริบที่กินแล้วไม่อ้วน ไร้พุง แน่นอนจ้าาา
- เม็ดแมงลัก 100 กรัม = 0.03 kcal เนื่องจากเม็ดแมงลักไม่ก่อให้เกิดพลังงาน และสามารถพองตัวได้ถึง 45 เท่า ดังนั้นเมื่อนำมารับประทานก่อนอาหารก็จะช่วยให้รู้สึกอิ่มท้อง และสามารถควบคุมปริมาณอาหารที่รับประทานได้เป็นอย่างดี และช่วยให้ผู้รับประทานสามารถขับถ่ายได้สะดวกยิ่งขึ้น
- แอปเปิ้ลเขียว 100 กรัม = 52 kcal พลังงานที่ได้จากแอปเปิ้ลมีลักษณะพิเศษที่น่าสนใจคือ แอปเปิ้ลจะให้พลังงานค่อนข้างต่ำและค่อยเป็นค่อยไป แหล่งพลังงานของแอปเปิ้ลคือ น้ำตาลฟรักโทสซึ่งเป็นน้ำตาลที่เปลี่ยนรูปเป็นพลังงานอย่างช้า ๆ ในร่างกายช่วยให้ไม่รู้สึกหิว อิ่มนาน ผลที่ตามมาคือ ระดับน้ำตาลในกระแสเลือดจะค่อย ๆ เพิ่มขึ้นอย่างสม่ำเสมอ ไม่สูงเร็วเหมือนกินขนมหวาน จึงเหมาะกับคนไข้เบาหวานด้วยเช่นกันนะ
เปลือกและเนื้อของแอปเปิ้ลมีเส้นใยอาหารที่ชื่อว่า “เพคติน” ที่มีคุณสมบัติพองตัวได้มาก ช่วยเพิ่มกากในทางเดินอาหาร ทำให้อวัยวะในทางเดินอาหารมีการทำงานเป็นปกติ เพิ่มประสิทธิภาพในการขับถ่ายด้วย
- ถั่วลิสง 10เม็ด = 45 kcal ถั่วลิสงมีโปรตีนสูงมากพอๆกับเนื้อสัตว์ช่วยให้ร่างกายเจริญเติบโตแข็งแรง นอกจากนี้มีแมกนีเซียมซึ่งถ้าร่างกายมีอยู่สูงจะทำให้ระดับคลอเรสเตอรอลต่ำ แล้วยังมีวิตามินอีสูงมากซึ่งช่วยชะลอความแก่ บำรุงผิวพรรณ อีกทั้งไฟเบอร์ที่ช่วยป้องกันอาการท้องผูกอีกด้วย
-อัลมอนด์ 24 เม็ด = 163 kcal อ๊ะ! อย่าพึ่งตกใจ เมล็ดอัลมอนด์ที่เราทานนั้นจะอุดมไปด้วยแมกนีเซียม โปแทสเซียม วิตามินอี ไฟเบอร์ และแคลเซียม นอกจากนี้ยังมีจากการศึกษาจาก International Journal of Obesity ว่าคนที่ควบคุมอาหาร และทานอัลมอน 70 เมล็ดต่อวันสามารถลดเอวได้ถึง 7 นิ้วเลยทีเดียว มากกว่าผู้ที่ไม่ทานถึง 2 นิ้ว ทั้งนี้ก็เพราะว่าการทานอัลมอนด์ช่วยลดการทานขนมจุบจิบที่ไม่มีประโยชน์ให้ เราได้นั่นเองจ้า
นอกจากนี้อัลมอนด์มีทั้งโปรตีน และไฟเบอร์ในปริมาณสูงแถมยังช่วยเร่งอัตราเมตาบอลิซึมในร่างกายได้ด้วยจ้า
- ทูน่า ในน้ำแร่ 1 กระป๋อง = 180 kcal ทูน่าอุดมไปด้วยโปรตีนและยังมี โอเมก้า 3 ซึ่ง จะช่วยเผาผลาญพลังงานได้เพิ่มถึง 26% เลยน๊าาา แล้วที่สำคัญอิ่มท้องมากๆจ้า
- ไข่ต้ม 1 ฟอง = 85 kcal ไข่เป็นอาหารที่อุดมไปด้วยคุณประโยชน์มากมาย โดยมาครบทั้งโปรตีน ธาตุสังกะสี วิตามิน A, D, E และ B12 ดังนั้นไข่จึงเป็นเมนูที่กินแล้วอิ่มนาน ส่งผลให้กินอาหารได้น้อยในมื้อถัด ๆ ไป และการรับประทานไข่มีส่วนช่วยลดไขมันได้ ส่วนไข่ขาวซึ่งเป็นโปรตีนล้วน จะช่วยให้ไม่โทรมเวลาลดน้ำหนัก เพราะมันสร้างกล้ามเนื้อที่เผาผลาญไขมันมันโดยธรรมชาติจ้า
- มะนาว น้ำมะนาวที่ขมนิดๆ จะช่วยให้รู้สึกหายหิวได้นานนับชั่วโมงหลังจากกิน เพราะสารพิเศษจากเปลือกจ้าาา
ของเหล่านี้หาไม่ยากลองติดตัวไว้ เวลารู้สึกหิวก้อเอามากินรับรองพุงหายแน่นอนน ว่าแล้วกินอะไรก่อนดีน้าาาา

อ่านต่อ »
ถ้าอยากมีผิหน้าสวยใส ไม่ควรทำ

ผิวหน้าสวยใส ใครก็อยากมีใช่มั๊ยจ้า นอกจากการดูแลผิวหน้าด้วยการล้างหน้าให้สะอาด ทาครีมบำรุงอย่างสม่ำ เสมอ และทากันแดดเป็นระจำแล้ว ยังมีสิ่งที่ไม่ควรทำด้วยนะจ๊ะ
1.ขัดหน้าบ่อยเกินไป ควรขัดอาทิตย์ละ 1-2 ครั้งก็พอ จะช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าให้หลุดออกไป แต่ต้องไม่ลงน้ำหนักมือแรงและเลือกตัวช่วยขัดหน้าที่ถูกกับผิวหน้าของเรา แต่ไม่ควรจะขัดหน้าบ่อยเกินไป นั่นก็เพราะจะทำให้ผิวหน้าบาง และน้ำมันที่ให้ความชุ่มชื้นกับผิวหายไปทำให้หน้าแห้งผากและอาจเกิดอักเสบได้นะจ๊ะ
2.บีบสิว ห้ามใจไม่เคยได้เลย แค่สักนิดนึงไม่เป็นไรหรอกมั้ง แต่ปรากฏว่าพรุ่งนี้เช้าแทนที่จะหายกลับเป็นเม็ดใหญ่กว่าเดิม ไม่ก็เม็ดอื่นๆ ที่อยู่ใกล้ๆ เม็ดเดิมมาจากไหน ไม่ควรนะคะ เพราะมือของเราค่อนข้างสกปรกทางที่ดีทายาไม่ก็หาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญดีกว่าเนอะ
3.นอนหลับทั้งๆ ที่ยังแต่งหน้า ข้อนี้เชื่อว่าสาวๆ ทุกคนที่แต่งหน้ารู้แน่นอนอยู่แล้วว่าไม่ควรเป็นที่สุด ที่จะทิ้งหน้าที่ยังไม่ได้ล้างและนอนหลับไปเฉยๆ เพราะเครื่องสำอางนี่แหละตัวดีเลย ถึงเราจะไม่ได้แพ้แต่หากต้องอยู่บนหน้าเราทั้งวันก็จะทำให้หน้าอุดตันได้กลายเป็นสิวขึ้นมาได้จ้า
4.อาบน้ำอุ่นหรือน้ำร้อน น้ำอุ่น น้ำร้อน จะทำให้ผิวแห้ง ดังนั้นควรเลี่ยงการล้างหน้าด้วยน้ำอุ่นๆ และหามอยเจอร์ไรเซอร์มาทางบำรุงหลังอาบน้ำเสร็จด้วย
5.ไม่เคยทำความสะอาดโทรศัพท์มือถือเลย สิ่งที่มาแนบหน้าเราบ่อยๆ แต่ไม่ทันได้สังเกต ทายสิว่าคืออะไร? จะอะไรซะอีกถ้าไม่ใช่โทรศัพท์มือถือที่เราใช้บ่อยๆ ไหนจะวางลืมทิ้งไว้ ไหนจะเอาไว้ในกระเป๋าสะพาย นี่แหละแหล่งสะสมเชื้อโรค ดังนั้นควรทำความสะอาดมือถือของเราบ่อยๆ นะคะ
6. นอนน้อย การพักผ่อนดีทั้งกับร่างกาย สมองและผิวของเราด้วย ควรจะนอนหลับให้เพียงพอเพราะระหว่างหลับร่างกายก็จะช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอนั่นเอง สักประมาณ 8-10 ชั่วโมง
7.กินแต่ของหวาน อู๊ย…ก็มันอร่อยนี่นา ร่างกายต้องความหวาน แต่เจ้าของหวานๆ นี่แหละตัวเกิดสิวและน้ำหนักขึ้น! บริโภคได้แต่พอเหมาะนะคะ

อ่านต่อ »
ริมฝีปากแห้ง แตก คล้ำ

ใครริมฝีปากแห้ง แตก คล้ำ อยู่บ้าง ลองทำตามนี้เลยจ้า
1. ดื่มน้ำ ยิ่งอายุมากขึ้นเซลล์ในร่างกายก็จะเก็บความชุ่มชื้นได้น้อยลง น้ำจึงเป็นตัวช่วยสำคัญที่จะช่วยเติมความชุ่มชื่นให้แก่ผิวพรรณ รวมทั้งริมฝีปาก
2. ใช้สำลีชุบน้ำอุ่นผสมกับเกลือป่นเล็กน้อย บิดให้พอหมาด เช็ดบริเวณริมฝีปากหรือคาบทิ้งไว้ประมาณ 3-5 นาที
3. ห้ามเลียริมฝีปาก การเลียริมฝีปากแม้จะช่วยให้ริมฝีปากชุ่มชื่นขึ้น แต่เมื่อความชื้นระเหย ก็จะทำให้ริมฝีปากแห้งมากขึ้น
4. ทาวาสลินหรือลิปบาล์มที่มีสารจากธรรมชาติบนริมฝีปาก
เพียงเท่านี้ก็จะได้ริมฝีปากสวย นุ่ม น่าจุ๊บๆ แล้วจ้าาา

อ่านต่อ »
ผู้หญิงแบบไหนกันนะ ที่ผู้ชายเค้าจะตกหลุมรัก

สาวโสดทั้งหลาย มาดูกันผู้หญิงแบบไหนกันนะ ที่ผู้ชายเค้าจะตกหลุมรัก
1. ผู้หญิงร่าเริง อารมณ์ดี
ใครๆก็อยากอยู่ใกล้ๆกับผู้หญิงร่าเริงและอารมณ์ดี จริงไหมคะ จะมีใครที่อยากอยู่ใกล้ผู้หญิงหน้าบูดบึ้งและอารมณ์เสียอยู่ตลอดเวลา เพราะผู้หญิงร่าเริง อารมณ์ดี มักจะทำให้โลกของพวกผู้ชายสดใสอยู่เสมอ หากสาวๆอยากเป็นผู้หญิงอารมณ์ดี อาจจะต้องเปล่ยนตัวเองสักนิด โดยการมองโลกในแง่ดีมากยิ่งขึ้น และฝึกให้อภัย และปล่อยวางกับเรื่องแย่ๆที่เข้ามาในชีวิตค่ะ เพียงเท่านี้เราก็สามารถเปลี่ยนตัวเองเป็นผู้หญิงร่าเริงได้แล้ว รับรองหนุ่มๆเข้าหาเพียบ
2. ผู้หญิงที่เป็นผู้ฟังที่ดี
ผู้ชายมักเกิดมาพร้อมกับความต้องการเป็นผู้นำค่ะ แต่นั่นไม่ได้หมายถึงว่าเขาต้องการที่จะข่มเหงรังแกคุณแต่อย่างไร ผู้ชายเพียงแค่ต้องการผู้หญิงที่ยอมรับฟังเข้าเมื่อยามมีปัญหา การเป็นผู้ฟังที่ดีเป็นอีกหนึ่งข้อที่ทำให้สาวๆมีเสน่ห์มากๆเลยล่ะค่ะ ลองตั้งใจฟังเค้าสักนิด แล้วเราจะรู้จักตัวตนของเค้ามากยิ่งขึ้นค่ะ
3. ท่าทีที่ดูเป็นธรรมชาติ
ใครว่าหนุ่มๆเค้าดูไม่ออกคะว่าสาวๆคนไหนแอ๊บหรือไม่แอ๊บ จริงๆแล้วผู้ชายก็ดูออกค่ะ แต่เค้าอาจจะแกล้งไม่ได้พูดอะไรออกมาเท่านั้นเอง สาวๆควรเป็นตัวของตัวเอง ไม่แอ๊บ เพราะเวลาที่หนุ่มเคาจะเข้าหาคุณเนี่ย ส่วนหนึ่งเค้าก็จะดูจากท่าทีของคุณนั่นเองค่ะ หากเมื่อใดที่คุณแอ๊บ เค้าก็จะคิดว่ามันดูไม่จริง และท่าทีที่ดูเป็นธรรมชาติเนี่ยล่ะค่ะ ที่จะขนะใจหนุ่มๆได้อยู่หมัด
4. ผู้หญิงเซ็กซี่เบาๆ
ความเซ็กซี่ไม่ได้อยู่ที่การแต่งตัวโป๊ โชว์เนื้อโชว์หนังค่ะ แต่อยู่ที่ท่าทีและการกระทำที่ดูเป็นธรรมชาติ ไม่หวือหวาเกินไป เมื่อใดก็ตามที่สาวๆนั่งเฉยๆ ลองนั่งไขว่ห้าง แล้วแอ่นสะโพกไปด้านหลังแล้วจ้องมองไปที่ดวงตาของเขาดูสิคะ หรืออาจจะลองเอามือเสยผมเก๋ๆดูก็ได้หนุ่มๆเค้าบอกว่าเซ็กซี่น่ารักน่าหยิกมากๆเลยล่ะค่ะ
5. ผู้หญิงฉลาดที่แกล้งโง่
ในบางสถานการณ์ผู้หญิงที่แกล้งโง่นั้นมักจะเป็นฝ่ายชนะเสมอ เพราะมันแสดงว่าคุณเป็นผู้หญิงฉลาดที่กำลังมองเกมส์ได้อย่างโจ่งแจ้ง และคุณจะสามารถควบคุมสถานการณ์ต่างๆได้อย่างผู้ชนะ ผู้ชายทุกคนชอบผู้หญิงฉลาดค่ะ แต่ไม่ใช่ไปคุยโวกระโตกกระตากเมื่อคุณรู้สิ่งใดสิ่งหนึ่งเข้า แต่บางครั้งการที่คุณแกล้งโง่นั้นก็เป็นเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งที่ทำให้ผู้ชายอยากค้นหา
ลองดูกันจ้าว่าเราเป็นแบบนี้กันอยู่หรือเปล่า อ่านเป็นแนวทางนะจ๊าเพราะที่ความเป็นตัวของตัวเองสำคัญที่สุดจ้าา

อ่านต่อ »
เครื่องสำอางแต่ชนิดมีอายุเท่าไหร่

หน้าพัง สิวขึ้น บางทีอาจมาจาก เครื่องสำอางหมดอายุ !!!
คุณใช้เครื่องสำอางหมดอายุกันอยู่หรือเปล่าจ๊ะ หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าเครื่องสำอางที่ใช้กันอยู่หมดอายุแล้ว!!!

ปัญหาผิวหน้าที่เกิดจากเครื่องสำอาง รู้ไว้เถอะว่ามันไม่ได้เกิดขึ้นเพราะสารเคมีที่ทำให้คุณระคายเคืองเพียงอย่างเดียว แต่มันสามารถเกิดขึ้นได้เพราะเครื่องสำอางหมดอายุการใช้งานแล้วด้วยจ้า
งั้นเรามาดูกันว่า เครื่องสำอางแต่ชนิดมีอายุเท่าไหร่
- ครีมบำรุงรอบดวงตา หมดอายุภายใน 6 เดือน หลังจากเปิดใช้ครั้งแรก
- ครีมหรือโลชั่นบำรุงผิว หมดอายุภายใน 1 ปีหลังจากเปิดใช้ครั้งแรก
- มาสคารา อายไลเนอร์ หมดอายุภายใน 3 เดือน หลังจากเปิดใช้
- รองพื้น หากเป็นแบบผสมน้ำ หมดอายุภายใน 1 ปีหลังจากเปิดใช้ หากเป็นแบบผสมน้ำมัน หมดอายุภายใน 1 ปีครึ่งหลังจากเปิดใช้
- แป้งฝุ่น บลัชออน อายแชโดว์ หมดอายุภายใน 2 ปี หลังจากเปิดใช้
- ลิปสติก หมดอายุภายใน 2 ปีหลังจากเปิดใช้ครั้งแรก แต่ลิปกลอสมีอายุการใช้งานเพียง 1 ปีเท่านั้น
- ดินสอเขียนคิ้ว หมดอายุภายใน 2 ปีหลังจากเปิดใช้ครั้งแรก
- น้ำหอม หมดอายุ 1 ปี ครึ่ง นับตั้งแต่วันที่ใช้ครั้งแรก
ทั้งนี้ อาจหมดอายุก่อนเวลาก้อได้ขึ้นอยู่กับการเก็บรักษาด้วยดังนั้นก่อนใช้ให้สังเกตด้วยว่าสีสันว่าซีดลงไหม ? หรือ คล้ำกว่าเดิมไหม เปลี่ยนไปจากเมื่อแรกซื้อหรือเปล่า รวมทั้งกลิ่นของผลิตภัณฑ์ และลักษณะของผลิตภัณฑ์ เนื้อครีมเหลวลง แยกชั้น ตกตระกอน หรือเกาะกลุ่มกันเป็นก้อนหนา ผิดไปจากเดิมหรือเปล่า ถ้าหากมีข้อผิดปกติเกิดขึ้น ก็อย่าลังเลใจ หรือเสียดายเงิน โยนทิ้งไป อย่าได้เสียดาย ไม่เช่นนั้น อาจจะต้องเสียดายผิวหน้าสวยๆภายหลังได้นะจ้าาา

อ่านต่อ »