ผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ Laniakea ได้ผ่านการทดสอบจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์แล้วว่า
-ไม่พบ betamethasone (สเตียรอยด์)
-ไม่พบ betamethasone 17-valerate (สเตียรอยด์)
-ไม่พบ clobetasol propionate (สเตียรอยด์)
-ไม่พบ dexamethasone (สเตียรอยด์)
-ไม่พบ hydrocorisone (สเตียรอยด์)
-ไม่พบ hydroquinone (ไฮโดรควินโนน)
-ไม่พบ mercury (สารปรอท)
-ไม่พบ prednisolone (สเตียรอยด์)
-ไม่พบ retinoic acid (กรดวิตามินเอ)
-ไม่พบ triamcinolone acetonide (สเตียรอยด์)


มั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์ของเรา
"เห็นผลอย่างปลอดภัย"

มีคน inbox มาถามฝนหลายคนเรื่องสเตียรอยด์จ้า (ปรอทเด๋วนี้ไม่มีใครใส่แล้วมั้ง เพราะตรวจง่ายจ้า)
-สเตียรอยด์ ซื้อชุดทดสอบมาตรวจ = ไม่เจอค่ะ (เจอก็ไม่ครบทุกตัว ต้องส่งตรวจ)
-สเตียรอยด์ ส่งทดสอบแล็ปสกินเทส = ไม่เจอค่ะ (เจอก็ไม่ครบทุกตัว) เพราะแล็ปสกินเทส เน้นทดสอบการแพ้ ไม่ได้ทดสอบสเตียรอยด์
-สเตียรอยด์ = หน้าใส เห็นผลทางลัด แต่ระยะยาว ใช้ต่อเนื่อง ไม่ดีแน่นอนค่ะ
หน้าฝน เกิดมา 35ปี ไม่เคยมีสเตียรอยด์มาสัมผัสเลย เพราะฝนกังวลเรื่องสารตัวนี้แบบมากๆๆๆๆ ฝนเคยเขียนไว้ ยังไงลองเข้าไปอ่านได้ที่ในเว็บจ้า
คลิก -> http://www.laniakea-skincare.com/article/view.php?id=8

สเตียรอยด์เป็นสารห้ามใช้ในเครื่องสำอาง ตามพรบ.เครื่องสำอาง ไม่ว่าจะใส่นิดหน่อย หยดใส่ ใส่นิดเดียว ก็อันตรายนะจ๊ะ
สิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นได้เมื่อคุณใช้ครีมที่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์
1.เกิดสิวสเตียรอยด์ เกิดจากการใช้ครีมที่มีสเตียรอยด์ความเข้มข้นสูงๆในระยะเวลาสั้นๆหรือความเข้มข้นต่ำๆในระยะเวลานานๆก้อได้
ลักษณะของสิวสเตียรอยด์
- สิวมักไม่มีหัวหนอง หรือไขมันอุดตัน (แต่ถ้าเป็นมาก อาจเป็นตุ่มหนอง ดูคล้ายตุ่มพุพองได้)
- สิวมักขึ้นบริเวณที่ทาเท่านั้น
- สิวจะเป็นลักษณะเดียวกันคล้ายกันหรืออยู่ในระยะเดียวกันหมด แม้จะขึ้นในเวลาต่างกันก็ตาม
2.เกิดผิวติดสเตียรอยด์ เกิดจากการใช้ครีมที่มีสเตียรอยด์ในระยะเวลานานๆ พอเลิกใช้ก็เกิดอาการผิวเสียแห้ง แพ้ทุกอย่าง คันหน้า หน้าแดง แสบ
มีสิวผดขึ้น แต่ถ้ากลับไปใช้ครีมเดิม อาการเหล่านี้จะดีขึ้นอย่างรวดเร็ว
3.เกิดผิวแตกลาย สเตียรอยด์ทำให้เกิดการอักเสบและบวมของชั้นหนังแท้ กลายเป็นรอยนูนมองเห็นจากด้านนอก โดยเริ่มแรกอาจรอยม่วงเรื่อๆ
จนกลายเป็นสีแดง บางคนอาจรู้สึกเจ็บ ที่สำคัญ เป็นถาวร ไม่หายจ้า!!!!
4.เกิดเส้นเลือดฝอยขยาย สเตียรอยด์มีฤทธิ์ทำให้เส้นเลือดฝอยใต้ผิวหนังขยายตัว เกิดเป็นปื้นแดง หรือที่เรียกกันว่าฝ้าเส้นเลือด
5.เกิดขนยาวผิดปกติ สเตียรอยด์จะกระตุ้นการเจริญเติบโตของขนอ่อน เหนี่ยวนำให้ขนขึ้นเต็มไปหมด และยาวกว่าปกติจ้าาา
และหากใช้ในขนาดสูงๆ ทาติดต่อนานๆ เป็นบริเวณกว้าง อาจจะทำให้เกิดอันตรายต่อต่อมหมวกไตได้เลย !!
โอ๊ย! มันจะเยอะอะไรขนาดนี้ เพราะฉะนั้นการใช้สเตียรอยด์ต้องอยู่ภายใต้การดูแลจาก แพทยและเภสัชนะจ๊ะ

GLYCYRRHIZA GLABRA ROOT EXTRACT เป็นสารสกัดจากรากชะเอมเทศ มีสาระสำคัญ ในกลุ่ม Flavonoids คือ Glabridin และ Isoquiritigenin  เปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพในการยับยั้งกระบวนการผลิตเม็ดสีผิวและส่งเม็ดสีเมลานินมาที่ผิวชั้นบน ต้นเหตุของความหมองคล้ำจึงทำให้ผิวแลดูขาวกระจ่างใสขึ้น ลดจุดด่างดำ รอยดำรอยแดงจากสิว ลดฝ้ากระ  และยังมีคุณสมบัติเป็นanti-oxidant ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เซลล์ผิวหนังเสื่อมสภาพเร็วขึ้น จึงช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยแห่งวัย และนอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติในการลดการอักเสบ (Anti-inflammation) อีกด้วย

ซึ่งสารสกัดตัวนี้เราใช้เนสารสกัดหลักของ LANIAKEA White Radiance Essence จ้า

Dermcom  (CROCUS CHRYSANTHUS BULB EXTRACT)เป็นสารสกัดจากลำต้นใต้ดินของ CROCUS CHRYSANTHUS หรือที่เรียกอีกชื่อว่า Cream Beauty ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งการฟื้นฟู(rejuvenation)และความอ่อนเยาว์(youthfulness) ซี่งมีคุณสมบัติกระตุ้นการสื่อสารระหว่างเซลล์เคราติโนไซต์ (Keratinocytes)ในผิวชั้นepidermis ให้หลั่งgrowth factors ไปกระตุ้นเซลล์ไฟโบรบลาสต์ (fibroblasts) ในผิวชั้นdermis ให้สร้างคอลลาเจนและอิลาสติน เพิ่มมากขึ้น  จึงนำสู่การเสริมสร้างและซ่อมแซมผิว ทำให้ผิวกระชับมากขึ้นหลังใช้เพียง 14วัน

DermCom ได้รับรางวัล Best Anti-Aging Ingredient: Innovation Prize 2013 จากสถาบัน CPCIA Personal Care Ingredient

สรุป Dermcom มีคุณสมบัติ

• เพิ่มกระบวนการผลิตคอลลาเจนและอีลาสติน Boosts collagen and elastin production
• กระตุ้น growth factors ตามธรรมชาติของผิว Stimulates natural growth factors of the skin
• คืนความยืดหยุ่นและช่วยกระชับผิวให้เรียบเนียน Renews the skin’s resilience and firmness
• ย้อนกระบวนการความชราให้ผิวกลับมาอ่อนเยาว์อีกครั้ง Reverses aging processes
• ฟื้นฟูผิวให้กระชับเรียบเนียน Rejuvenates skin texture
• ช่วยลดเลือนริ้วรอยร่องลึก Visibly reduces stretch marks

Alpha Arbutin เป็นสารสังเคราะห์ด้วยวิธี biosynthetic ที่สามารถละลายน้ำได้ ทำหน้าที่ในการปรับผิวให้ขาว และทำให้สีผิวมีโทนเดียวกัน โดยเหมาะสำหรับผิวทุกประเภท มีความปลอดภัยสูง ไม่มีผลข้างเคียงเหมือนสารไฮโดรคิวโนน (Hydroquinone) ซึ่งมีประสิทธิภาพที่ดีกว่า แต่ราคาสูงกว่าไฮโดรคิวโนนมากจึงไม่ค่อยนิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย

ชื่อทางเคมี : 4-Hydroxyphenyl-α-D-glucopyranoside

INCI NAME : Alpha-arbutin

อัลฟาอาร์บูตินสามารถลดการสร้างเม็ดสีเมลานินที่เซลล์ผิวหนังได้ด้วยการไปยับยั้งเอนไซม์ Tyrosinase ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่สำคัญที่สุดและมีบทบาทมากที่สุดในการสังเคราะห์เมลานิน เพราะเอนไซม์ Tyrosinase มีผลต่อหลายกระบวนการในการสร้างเมลานิน โดยทำหน้าที่เปลี่ยนสารตั้งต้นไทโรซีน (tyrosine) ไปเป็นสาร DOPA และ DOPA quinine จนสุดท้ายของกระบวนการคือเซลล์เม็ดสีเมลานิน เมื่อกระบวนการสร้างเมลานินเสร็จสิ้นจะถูกส่งผ่านไปยังเซลล์ keratinocytes ที่อยู่รอบๆ จากนั้นเซลล์ keratinocytes จะเคลื่อนสู่ผิวชั้นบนของหนังกำพร้า ทำให้ผิวมีสีที่เข้มมากกว่าปกติ ดังนั้นถ้าเอนไซม์นี้ทำงานมากเกินไป จะทำให้สร้างเม็ดสีเมลานินได้มากขึ้น ดังนั้นเมื่ออัลฟาอาร์บูตินสามารถยับยั้งหรือรบกวนการทำงานของเอนไซม์ Tyrosinase ได้ก็จะทำให้มีการสร้างเมลานินน้อยลงส่งผลให้ผิวขาว กระจ่างใส และสามารถปรับโทนสีผิวให้สม่ำเสมอได้ โดยไม่ทำให้ผิวบางลงด้วย

มหัศจรรย์แห่งแอปเปิ้ลเขียว แอปเปิลพันธุ์ Uttwiler Spätlauber เป็นแอปเปิลสายพันธุ์เก่าแก่ของประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ซึ่งพบได้น้อยมากในปัจจุบัน โดยรู้จักกันดีในแง่ของการเก็บรักษาไว้ได้ยาวนาน แอปเปิลชนิดนี้สามารถเก็บได้นานโดยไม่เหี่ยวย่นหรือเสียรสชาติไป และจากการศึกษาพบว่า การใช้สเต็มเซลล์ของพืชสามารถชะลอการชราของผิวได้โดยปกป้องเซลล์ที่มีความสำคัญที่สุดในผิวนั่นคือ สเต็มเซลล์ จึงคงความอ่อนเยาว์ของผิวเอาไว้ได้นานขึ้นและช่วยให้ผิวดูดี มีชีวิตชีวาได้มีการศึกษาด้านผลของการลดริ้วรอยโดยมีการทดลองทางคลีนิคในอาสาสมัครจำนวน 20 คน (ช่วงอายุ 37 ถึง 64 ปี) โดยทำการทาผลิตภัณฑ์ emulsion ที่มีความเข้มข้น 2% ของ PhytoCellTec™ Malus Domestica ลงบนบริเวณริ้วรอยรอบดวงตาเป็นเวลา 28 วัน ซึ่งผลลัพธ์แสดงให้เห็นว่าใน 100% ของกลุ่มอาสาสมัครมีการลดลงของริ้วรอยรอบดวงตาอย่างเห็นได้ชัดและมีนัยสำคัญ (ดังภาพ) ซึ่งสารสกัดตัวนี้ได้ใส่ลงใน LANIAKEA Youth Radiance Serum

PhyToCellTech Agan เป็นสารออกฤทธิ์ที่ได้จากสเต็มเซลล์ของต้นอาร์แกน  มีถิ่นกำเนิดในบริเวณแห้งแล้งทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศโมร็อกโค โดยนำสารสกัดมาบรรจุลงใน Liposome เพื่อช่วยนำพาสารสำคัญให้ซึมลึกเข้าสู่ชั้นในของผิวหนังแล้วปลดปล่อยออกมาอย่างช้าๆเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของสารสกัดให้เพิ่มมากขึ้น ช่วยเพิ่มความสามารถการเกิดใหม่ (regenerative) ของสเต็มเซลล์ในผิวชั้น dermis ให้ดีขึ้น เป็นผลให้เกิดการฟื้นฟูแก่ชั้นผิวในระดับที่ลึกลงไป

PhyToCellTTech Agan มีคุณสมบัติดังนี้

1. เพิ่มพลังชีวิตและปกป้องเซลล์ต้นกำเนิดของชั้นผิวหนังแท้ให้ยังคงความเป็นสเต็มเซลล์ได้แม้จะเป็นเซลล์ที่ชราแล้วก็ตาม จากผลการทดลองพบว่า

• สามารถเพิ่มการแสดงออกของยีนส์ Sox2 ในเซลล์ต้นกำเนิดของชั้นผิวหนังแท้ ซึ่งมีผลต่อการคงไว้ซึ่งศักยภาพของเซลล์ต้นกำเนิดผิว
• สามารถเพิ่มจำนวนของ three-dimensional spheres ซึ่งเป็นลักษณะของเซลล์ต้นกำเนิดของชั้นผิวหนังแท้

2. ช่วยลดเลือนริ้วรอยและการสูญเสียสภาพของเซลล์ผิว(สามารถลดเลือนริ้วรอยได้มากถึง26%ใน14วัน)
3. ช่วยเนื้อเยื่อในชั้นผิวหนังแท้แน่นกระชับขึ้นส่งผลให้บริเวณรอยต่อระหว่างผิวชั้น Dermis และ Hypodemis ดูเรียบขึ้น
4. ช่วยให้ผิวมีความหนาแน่นขึ้น (skin Desity) และริ้วรอยร่องลึกดูตื้นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ช่วยรักษาสภาพของเซลล์ต้นกำเนิดในผิวชั้นหนังแท้ให้มีอายุนานขึ้น โดยป้องกันไม่ให้เสื่อมสลายไปตามวัย จึงส่งผลให้ผิวมีความยืดหยุ่น แข็งแรงและแน่นขึ้น ช่วยฟื้นฟูเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพและต่อต้านริ้วรอยแห่งวัย

PhyToCellTech Agan เป็นสารออกฤทธิ์ที่มีความสามารถทั้งปกป้องและเพิ่มพลังชีวิตให้แก่ Dermal stem cell ช่วยเร่งกระบวนการซ่อมแซมผิวหนังตามธรรมชาติและยังต่อสู้กับการชราของผิวหนังได้ลึกถึงระดับผิวชั้น Dermis ผลลัพธ์คือผิวดูสดใส สดชื่น มีชีวิตชีวาและเปล่งปลั่ง ดูมีสุขภาพที่ดี

Nanowhite เป็นการรวมส่วนผสมของสาร whitening agent อันทรงพลังกับสารต้านอนุมูลอิสระ(antioxidant) โดยการเตรียมในรูปแบบ liposome เพื่อให้ผลในการทำให้ผิวขาวกระจ่างใสอย่างเต็มที่  ซึ่งปัจจัยที่ทำให้เกิดจุดด่างดำหรือสีผิวไม่สม่ำเสมอ คือ อายุที่มากขึ้น ความเครียด มลภาวะ โดย nanowhite จัดการปัญหาเหล่านี้ด้วย

• Arbutin สารสกัดจากธรรมชาติที่ได้จาก Bearberry ทำหน้าที่ยับยั้งเอนไซม์ tyrosinase ซึ่งเป็นเอนไซม์สำคัญของกระบวนการสร้างเม็ดสีผิว
• Reduced glutathione และ Vitamin C palmitate ซึ่งได้รับการพิสูจน์แล้วว่าปลอดภัยเสริมคุณสมบัติไวเทนนิ่งและสารต้านอนุมูลอิสระที่ดี

สรุปข้อดีของ นาโนไวท์ (NanoWhite)

• ยับยั้งกระบวนการสร้างเม็ดสีได้อย่างปลอดภัย
• ลดการสังเคราะห์เมลานิน
• ช่วยปรับโทนสีผิวให้สม่ำเสมอ สว่างและสดใส

ต่อต้านอนุมูลอิสระลดเลือนริ้วรอย

ใครอยากสวย สุขภาพดี ชะลอวัย ต้องทานผักผลไม้ให้ครบ 5สี นะจ๊

-ผักผลไม้สีแดง
สารสีแดงในผักและผลไม้ที่มีสีแดงคือ ไลโคปีน (Cycopene) และ เบตาไซซีน (Betacycin) เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ
มีส่วนสำคัญในการช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งตามอวัยวะต่างๆในร่างกาย ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งที่ต่อมลูกหมาก มะเร็งปอด และมะเร็งที่กระเพาะอาหาร
นอกจากนี้ ยังมีประโยชน์เรื่องผิวพรรณ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนที่ทำให้ผิวพรรณอิ่มเอิบลดการเกิดสิวและทำให้รอยแผลเป็นจางลงได้อีกด้วย
ผักและผลไม้ที่อยู่ในกลุ่มสีแดงได้แก่ มะเขือเทศ สตรอเบอร์รี่ บีทรูท เชอรี่ แตงโม เกรพฟรุตสีชมพู ฝรั่งสีชมพู และกระเจี้ยบแดง
-ผักผลไม้สีเขียว
สีเขียวในผักและผลไม้มาจากเม็ดสีของสารที่มีชื่อว่า คลอโรฟิลด์ (Chlorophyll) เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยในการต่อต้านโรคมะเร็ง ทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งสดใส ช่วยยับยั้งการเกิดริ้วรอย
นอกจากนี้การทานผักใบเขียวเป็นประจำจะช่วยให้การขับถ่ายดี ลดอากาท้องผูก เนื่องจากผักเหล่านี้มีกากใยสูงมีส่วนช่วยในการลดน้ำหนัก เนื่องจากให้พลังงานต่ำ ผักและผลไม้ที่อยู่ในกลุ่มสีเขียว
ได้แก่ คะน้า สาหร่ายบางชนิด ตำลึง ผักใบเขียวต่างๆ แอปเปิ้ลเขียว ฝรั่ง ผักกาด
พืชตระกูลกระหล่ำมีสารประกอบที่เรียกว่าอินโดล และไอโซไธโอไซยาเนท ที่ช่วยป้องกันโรคมะเร็งด้วยการกระตุ้นร่างกายให้สร้างเอ็นไซม์ชนิดหนึ่งที่ช่วยกำจัดสารพิษออกจากร่างกาย สารชนิดนี้มีมากในผักเช่น บร็อคโคลี่ กระหล่ำบรัสเซลส์ กระหล่ำดอก กระหล่ำปลี
-ผักผลไม้สีเหลืองและส้ม
ผักและผลไม้ที่สีเขียวอ่อนและสีเหลืองจะมีสารที่ชื่อว่า ลูทีน (Lutein) อยู่มาก ซึ่งมีประโยชน์โดยตรงกับดวงตา ช่วยป้องกันและชะลอความเสื่อมของจอประสาทตาในผู้ใหญ่ และมีส่วนช่วยในการพัฒนา การมองเห็นในเด็กเล็กได้อีกด้วย
สำหรับผักและผลไม้ที่มีสีส้ม จะมีสารเบต้าแคโรทีน (Betacarotene) ที่ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล,ไขมันในเส้นเลือด ช่วยให้ผิวพรรณสดใสเปล่งปลั่ง รักษาความชุ่มชื่นให้ผิว ลดความเสื่อมของเซลล์ในร่างกาย ช่วยส่งเสริมและสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกาย
ผักและผลไม้ที่อยู่ในกลุ่มสีเหลืองและส้มได้แก่ ส้ม แครอท มะละกอ มะนาว สับปะรด ฟักทอง มันเทศ ขนุน เสาวรส และ ข้าวโพด
-ผักผลไม้ที่มีสีม่วงและม่วงอมน้ำเงิน
สีสันเหล่านี้มาจากสารแอนโทไซยานินและสารโพลิฟีนอลอยู่มาก ซึ่งมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ ช่วยทำลายสารที่ทำให้เกิดมะเร็ง ช่วยกระตุ้นการทำงานของเซลล์ต่างๆ ชะลอความเสื่อมถอย ลดอัตราการเกิดโรคหัวใจ
ช่วยยับยั้งเชื้ออีโคไลที่ทำให้เกิดอาการอาหารเป็นพิษได้ นอกจากนี้ยังช่วยบำรุงเส้นผมให้เงางามอีกด้วย
โดยสารนี้จะพบมากในผักและผลไม้สีม่วง เช่น มะเขือสีม่วง ลูกแบล็คเบอรี่ บลูเบอรี่ ดอกอัญชัน กะหล่ำปลีที่มีสีม่วง มันเทศสีม่วง และหอมแดง
-ผักผลไม้ที่มีสีขาวจนถึงน้ำตาลอ่อน
ผักผลไม้สีขาวนี้จะให้กากใยสูง โดยรวมแล้วต้านอนุมูลอิสระ เพิ่มปริมาณวิตามินอี ในร่างกายโดยเฉพาะกลุ่มธัญพืชให้วิตามินและโปรตีนสูง มีสารอาหารที่เรียกว่า แซนโทน (Xanthone) ซึ่งเป็นสารในกลุ่มฟลาโวนอยด์ ช่วยลดอาการอักเสบ
ช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือด นอกจากนี้ยังมีสารอื่นๆที่ประกอบด้วย กรดไซแนปติก และ อัลลิซิน โดยสารเหล่านี้มีฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดไขมันในเลือด ช่วยป้องกันโรคความดันโลหิตและโรคหลอดเลือดหัวใจได้
ผักและผลไม้ที่มีสีขาวจนถึงน้ำตาลอ่อนได้แก่ ขิง ข่า กระเทียม กุยช่าย ขึ้นช่าย เซเลอรี่ เห็ด ลูกเดือย หัวไชเท้า ถั่วเหลือง ดอกกะหล่ำ ถั่วงอก และงาขาว ส่วนผลไม้ก็ได้แก่ กล้วย สาลี่ พุทรา ลางสาด ลองกอง ลิ้นจี่ ละมุด แห้ว เป็นต้น

สรุปง่ายๆ คือทานผักผลไม้ให้ครบทุกสี เพราะสีสันบ่งบอกถึงคุณค่าที่แตกต่างกัน ที่สำคัญควรกินทั้งผักและผลไม้ เพราะประโยชน์ของสารอาหารที่ได้ควรมีความผสมผสาน ทำให้ร่างกายแข็งแรง สามารถต้านโรคภัยได้ และที่สำคัญช่วยบำรุงผิวรรณให้อิ่มเอิบเปล่งปลั่งด้วยนะ^^