บทความ ARTICLES

เทคนิคในการกำจัดขน ที่จะช่วยรักษาผิวของเราให้เรียบเนียน

เวลาโกนขนเคยสังเกตมั้ยว่าบางทีขนก็ขึ้นเร็ว บางทีขนก็ขึ้นช้าไม่เหมือนกัน ฝนมีเทคนิคในการกำจัดขน ที่จะช่วยรักษาผิวของเราให้เรียบเนียน ไม่เป็นขนคุด ไม่เป็นตอ และทำให้ขนที่โกนขึ้นช้าลงอีกด้วยจ้า
1. อาบน้ำก่อนโกนขน
ก่อนกำจัดขน ให้อาบน้ำก่อน การอาบน้ำจะช่วยขจัดน้ำมัน เหงื่อ สิ่งสกปรกออกไป และการทำให้ขนเปียกน้ำ จะทำให้โกนง่ายขึ้น และควรโกนขนทันทีหลังอาบน้ำเสร็จ เพราะถ้าทิ้งไว้นานผิวเราจะแห้ง อาจจะทำให้เกิดรอยย่นผิวไม่เรียบเนียน อาจทำให้มีดโกนเข้าไม่ถึง

2. เลือกใบมีดที่คม
สิ่งที่หลายคนมองข้าม คือการเลือกใบมีด ไม่ใช่ใช้อะไรที่มีความคมก็โกนได้หมดนะคะ การเลือกใช้อุปกรณ์ที่เหมาะสมก็สำคัญเหมือนกัน เดี๋ยวนี้มีนวัตกรรมเทคโนโลยีมากมาย ลองเลือกใบมีดที่เหมาะกับการโกนของคุณดูค่ะ

3.สครับผิวก่อนกำจัดขนล่วงหน้า 1 วัน
การสครับจะเป็นการขจัดเซลล์ผิวที่ตาย เหมือนเป็นการทำความสะอาดสิ่งสกปรกที่ติดอยู่กับเส้นขนของเราออกไป แต่ควรระวังไม่ขัดผิวแรงเกินไป เพราะอาจทำให้ผิวของเราบอบบางและแพ้ได้

4.ใช้เจลโกนขนที่มีมอยส์เจอร์ผสม
ก่อนโกนขน ให้ลงเจลโกนขนที่มีมอยส์เจอร์ผสมเพื่อรักษาความชุ่มชื้นของผิว จะช่วยให้โกนขนได้ง่ายขึ้นไม่บาดผิว ไม่ควรใช้สบู่ในการเตรียมผิวก่อนโกนเพราะจะทำให้ผิวแห้งและทำให้โกนขนยากยิ่งขึ้น

5.โกนขนอย่างเบามือที่สุด
โกนอย่างเบามือที่สุด ใช้แรงกดให้น้อยที่สุด โกนย้อนแนวขนจะทำให้โกนได้เกลี้ยงตั้งแต่ครั้งแรก ทำให้ไม่ต้องโกนบริเวณเดิมซ้ำๆ

6. ล้างผิวให้เกลี้ยงหลังโกน
โกนขนเสร็จแล้วให้ล้างด้วยน้ำสะอาด จากนั้นซับให้แห้ง อย่าขัดผิวแรงๆ และห้ามปล่อยให้ผิวแห้งเด็ดขาด ควรทามอยส์เจอไรเซอร์เพื่อเก็บความชุ่มชื้นให้ผิว

7. อย่าลืมทาครีมคืนความชุ่มชื้นให้ผิวหลังโกน
หลีกเลี่ยงการใช้ออยล์ที่มีส่วนผสมของน้ำหอมนะคะ ลองใช้น้ำมันมะพร้าว เพราะน้ำมันจะช่วยเข้าไปบำรุงผิวที่โดนทำร้ายหลังจากการโดนขนได้อย่างล้ำลึก แต่จะให้ดีลองทาทุกวันก่อนเข้านอน ทำต่อเนื่อง แล้วสังเกตดูได้เลยว่าขนที่ขึ้นใหม่จะเส้นเล็กลง แถมยังขึ้นช้าลงอีกด้วย

อ่านต่อ »
อารมณ์ดีคิดบวกทำให้เราอายุยืน แก่ช้า ผิวพรรณสดใสเปล่งปลั่ง

อารมณ์ดีคิดบวกทำให้เราอายุยืน แก่ช้า ผิวพรรณสดใสเปล่งปลั่งได้น้า
มาฝึก คิดบวก กับ 6 วิธีจาก สสส. กันจ้า

-ทบทวนเรื่องราวดีๆในชีวิต วันไหนที่รู้สึกหมดพลังให้ลองนึกถึงสิ่งดีๆที่เคยผ่านเข้ามาในชีวิต โดยอาจจะดูจากบันทึก หรือภาพถ่ายเก็บความทรงจำดีๆ และให้ฝึกชื่นชมสิ่งรอบตัว เพื่อเพิ่มกำลังใจให้ตัวเองค่ะ

-ฝึกยิ้มกับตัวเองทุกวัน เพื่อให้ตนเองรู้สึกผ่อนคลาย ดึงความเชื่อมั่น และพลังในตัวออกมา ดังนั้นทุกๆเช้าอย่าลืมยิ้มให้กับตัวเองในกระจกนะคะ

-เปลี่ยนมุมมองความคิด เมื่อเจอปัญหาให้พยายามมองทุกอย่างเป็นเรื่องท้าทาย และเลิกจมอยู่กับความคิดแง่ลบ ไม่เช่นนั้นคุณเองที่จะไม่มีความสุข

-เลิกเป็นคนขี้บ่น เพราะคำที่พูดออกมาเหล่านั้นเป็นสิ่งที่ทำให้นึกถึงเรื่องลบซ้ำๆ ดังนั้นหากเจอปัญหาให้ค่อยๆควบคุมอารมณ์ นับ 1-10 แล้วค่อยพูด จะเป็นวิธีแก้ไขปัญหาที่ดีกว่า

-รู้จักขอบคุณตัวเอง เพราะหากคุณรู้สึกดีกับตัวเอง ก็จะคิดบวกกับสิ่งรอบๆตัวด้วย ดังนั้นควรหาโอกาสพิเศษให้รางวัลตัวเองบ้าง เช่น ไปทานอาหารร้านอร่อย ไปเที่ยวพักผ่อนในสถานที่สวยๆ เป็นต้น

>รู้จักแบ่งปันผู้อื่น ความรู้สึกหลังจากการชมเชย และช่วยเหลือผู้อื่นเป็นความทรงจำดีๆที่เป็นส่วนประกอบให้มองโลกในแง่บวกได้ ดังนั้นลองแบ่งปันสิ่งดีๆกับผู้อื่น เริ่มจากวิธีง่ายๆ เช่น ยิ้มให้เพื่อน หรือพี่ที่ทำงาน หรือให้คำแนะนำดีๆกับรุ่นน้อง เป็นต้น

อ่านต่อ »
สารตัวไหนที่ช่วย เรื่องการลดเม็ดสี ลดความหมองคล้ำ

ก่อนจะซื้อผลิตภัณฑ์ำเพื่อผิวกรจ่างใส เคยดูสารสกัดกันมั๊ยคะ  ถึงเวลาที่เราต้องเป็นผู้บริโภคที่ชาญฉลาด เลือกซื้อเองได้อย่างมีความรู้ รู้ว่าสารตัวไหนที่ช่วย ไม่ช่วย เรื่องการลดเม็ดสี ลดความหมองคล้ำ ลองมาดูกันเลยดีกว่า

กลุ่มที่ 1 สารที่ยับยั้งเอนไซม์ไทโรซิเนส (Tyrosinase) ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่ผลิตเม็ดสีเมลานิน ได้แก่สารที่มีชื่อเหล่านี้ครับ Ellagic acid, Azelaic acid, Glycolic acid, Kojic acid, Arbutin, Mulbery extract, Soy extract, Niacinamide, Aloesin, Licorice extract, Green tea extract (Catechins โดยเฉพาะสารที่ชื่อว่า EGCG) ส่วน Resveratrol (สารสะกัดจากเปลือกองุ่น หรือ ได้จากไวน์แดง) Quercetin (พบมากในหัวหอม แอปเปิ้ล พืชตระกูลถั่ว เป็นต้น) ก็สามารถทานเสริมเพื่อลดความหมองคล้ำได้เช่นกัน เเต่อาจได้ผลที่เเตกต่างกันออกไปในเเต่ละคน
.
กลุ่มที่ 2 ลดการผลิตสาร dopaquinone ซึ่งจะนำไปสู่การสร้าง Melaninได้แก่ วิตามินซี (Vitamin C) นั่นเอง (วิตามินซี เป็น Reducing agent ที่สามารถ reduce dopaquinone to DOPA ได้) วิตามินซี มีอีกชื่อที่พบเห็นได้บ่อยในครีมประเภทไวท์เทนนิ่ง ชื่อ Ascorbic acid หรือ Ascorbyl palmitate หรือ Magnesium ascorbyl palmitate เป็นต้น
.
กลุ่มที่ 3 ไม่ควรใช้ คือ ครีมที่ผสมสาร #Hydroquinone ซึ่งเป็นสารอันตราย เนื่องจากเป็น Strong inhibitor of melanin pigment synthesis ควรระมัดระวังหลีกเลี่ยงครีมที่ปนสารตัวนี้ การที่จะใช้ได้ควรเป็นหมอผิวหนังเท่านั้นที่สามารถจ่ายให้ได้ครับ เนื่องจากหากใช้นานเกินไป หรือ ใช้ไม่เหมาะสมจะทำให้หน้าพังได้ เพราะเซลล์ที่ผลิตเม็ดสีจะตายอย่างถาวร (ปกติครีมที่ขายทั่วไปจะไม่มีการผสมสารตัวนี้ลงไปอย่างเด้ดขาด เเต่หากเป็นครีมที่ซื้อขายกันแบบง่าย ๆ เถื่อน ๆ อาจมีการใส่สารตัวนี้ลงไป)

LANIAKEA White Radiance Essence มีครบเลยคร่าาา
Arbutin, Licorice extract,Resveratrol,Ascorbyl palmitate ฯลฯ
ที่สำคัญ LANIAKEA ไม่มีสารอันตราย ปรอท ไฮโดรควินโนน สเตียรอยด์ หรือสารเร่งขาวที่เป็นอันตราย ใส ๆๆสวยๆๆ ปลอดภัยจร้าาา

CR.หมอหล่อคอเล่า

อ่านต่อ »
วิธีลดตาบวม

ช่วงนี้สาวๆอดหลับอดนอน ร้องไห้จนตาบวมช้ำ ปัจจุบันเวลานั่งดูพระราชกรณีกิจฝนยังน้ำตาซึมอยู่เลย วันนี้ฝนจึงนำวิธีลดตาบวม ง่ายๆมาฝากจ้า
. เมื่อร้องไห้ควรใช้ผ้าเช็ดหน้าซับเบาๆการใช้ผ้าซับรอบดวงตาจะระคายเคืองน้อยกว่าการใช้ทิชชู่ เวลาซับน้ำตาก็หลีกเลี่ยงการขยี้ตาด้วยนะเพราะจะทำให้มีริ้วรอยได้ค่ะ
. หลังจากหยุดร้องไห้ ให้ใช้นิ้วนวดเบาๆรอบกระบอกตาและบนเปลือกตาทันทีและการล้างหน้าด้วยน้ำเย็นจะช่วยให้คลายอาการเกร็งรอบดวงตาและกล้ามเนื้อบนใบหน้าได้
. นำน้ำแข็งหรือเจลเย็นมาห่อผ้าบางๆมาประคบมาทาบประคบที่บริเวณรอบดวงตา วิธีนี้ฝนใช้บ่อยค่า สะดวกง่าย ได้ผลดี ความเย็นจะช่วยลดบวมได้อย่างดีค่ะ
. ใช้ช้อนสเตนเลสแช่ช่องแช่แข็งให้เย็น มาทาบประคบที่บริเวณรอบดวงตา ความเย็นจะช่วยลดบวมได้อย่างดี และทำให้รอบดวงตาเราสดชื่นด้วย
. ถุงชาที่ชงดื่มแล้วอย่าทิ้งนำมาแช่ไว้ในตู้เย็นจากนั้นนำถุงชาที่เย็นแล้วมาประคบไว้ที่เปลือกตา ตาที่บวมเป่งก็จะกลับมาสวยปิ๊งเหมือนเดิม เพราะฤทธิ์ของชาสามารถช่วยลดอาการบวมได้ดี
. นำสำลีแผ่นไปชุบนมสดที่แช่เย็นพอหมาด ๆ จากนั้นให้นำแผ่นสำลีไปวางไว้ที่เปลือกตา หลับตาพักประมาณ 20-30 นาที ถ้ารู้ว่าแห้งสามารถเปลี่ยนได้ชุบใหม่ได้อย่าปล่อยให้ห้งเกินจ้า จะรู้สึกสบายตา อาการบวมก็จะทุเลาลงด้วยจ้า

อ่านต่อ »
มาเพิ่มจำนวน StemCells กันเถอะ

มาๆสาวๆมาเพิ่มจำนวน StemCells ในร่างกายของเรากันดีกว่า

วันนี้ฝนมี แนวทางการดูแลสุขภาพที่มีข้อมูลสนับสนุนว่า เพิ่มจำนวนสเต็มเซลล์ (Stem cells) ในร่างกายของเราได้...

1. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ (Exercise) หลากหลายทั้งแบบคาร์ดิโอ เวทเทรนนิ่ง และ ยืดเหยียดกล้ามเนื้อ
2. จำกัดแคลอรี่ที่ได้รับจากอาหาร (Caloric restriction and fasting) งดอาหารที่มีแคลอรี่สูง ๆ ปล่อยให้หิวบ้าง ท้องว่างบ้าง ไม่ต้องอิ่มตลอดเวลา
3. รำไทเก๊ก (Tai Chi) มีงานวิจัยในประเทศจีน พบว่ารำไทเก๊ก (Tai Chi) ช่วยเพิ่มจำนวนสเต็มเซลล์ได้นะจ๊ะ
4.นอนหลับพักผ่อนเพียงพอ (Sleep)
5.หลีกเลี่ยงรังสี UV (Protect yourself and your stem cells from radiation )โดยเฉพาะเเสงแดด ดังนั้นฝนจึงย้ำเตือนอยู่เสมอเรื่องทากันแดดจ้า
หันมาดูแลสุขภาพเพิ่มจำนวน StemCells กัน จะได้แก่ช้าๆๆๆเน๊าะ

อ่านต่อ »